วารสารการแพทย์เภสัชกรรมเวชกรรม เจาะข่าวตลาดยา : www.medi.co.th

แน่นอนอยู่แล้วว่าการที่มีสุขภาพช่องปากที่ดี จะช่วยให้สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างมีความสุข ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของการใช้งานอย่างการรับประทานอาหารต่างๆ ได้อย่างมีความสุข ไม่เกิดอาการปวดหรือเสียวฟัน รวมไปถึงการได้มีรอยยิ้มที่สดใส ไม่ต้องคอยยิ้มแบบไม่เต็มปากเพราะมีปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพช่องปาก โดยหากต้องการที่จะมีสุขภาพช่องปากที่ดี จะต้องหมั่นคอยเข้ารับการดูแลสุขภาพช่องปากและฟันอย่างต่อเนื่อง ไม่ปล่อยปละละเลยเป็นเวลานานๆ เพราะการไม่เข้าพบทันตแพทย์เลย อาจจะทำให้คุณเกิดปัญหาในช่องปากขึ้นได้ในระยะยาว

ลักษณะช่องปากและฟันที่ดี มีอะไรบ้าง
ลักษณะช่องปากและฟันที่ดี มีดังนี้
- ฟันแข็งแรง ไม่มีร่องรอยฟันผุ โคนฟันและซอกฟันสะอาด ไม่มีคราบหินปูนหรือเศษอาหารเกาะติดอยู่ที่ฟัน
- เหงือกต้องไม่ร่น ไม่บวม มีสีสด ไม่คล้ำหมองกว่าที่ควรจะเป็น
- ไม่ควรมีเลือดออกในขณะขัดฟัน แปรงฟัน หรือโดยเฉพาะเวลาทานอาหาร
- กระพุ้งแก้มและช่องปากต้องไม่เป็นแผล ไม่มีอาการปวดบวม เป็นหนอง
- กรามและขากรรไกรต้องทำงานได้อย่างปกติ

ลักษณะช่องปากและฟันที่ควรได้รับบริการทันตกรรม
หากท่านมีอาการต่างๆ ที่กล่าวมาข้างต้น ไม่ว่าจะตั้งแต่เล็กน้อยไปจนถึงอาการรุนแรงอย่างเช่น มีหินปูนเกาะตามโคนหรือซอกฟัน ควรได้รับการขูดหินปูน หรือหากมีรอยดำเป็นเส้นหรือเป็นจุดๆ อาจเป็นอาการของโรคฟันผุ รวมไปถึงอีกหลากหลายอาการที่ไม่ควรจะเกิดขึ้นมาอย่างเช่น เหงือกร่น อาการบวม มีกลิ่นปาก เป็นแผล ฯลฯ หากท่านพบอาการผิดปกติให้รีบเข้ารับการรักษาในทันที เพราะบางปัญหาสามารถทำการแก้ไขได้ตั้งแต่เนิ่นๆ แต่หากมองข้ามและเฉยเมย อาจจะกลายเป็นปัญหาใหญ่ในอนาคตก็เป็นได้

วิธีดูแลช่องปากเบื้องต้นที่จะทำให้คุณมีสุขภาพช่องปากที่ดี
การดูแลรักษาช่องปากให้เป็นปกติอยู่ในสภาพที่ดีนั้น สามารถทำได้ด้วยตัวเราเอง โดยเราต้องอาศัยการดูแล เอาใจใส่ ในเรื่องของความสะอาด และเข้ารับการตรวจเช็กกับทันตแพทย์อย่างสม่ำเสมอ โดยหากได้รับการดูแลเอาใจใส่อย่างถูกวิธี สุขภาพช่องปากของคุณก็จะดี ไม่มีปัญหาต่างๆ เข้ามารบกวนอย่างแน่นอน โดยต่อจากนี้จะเป็นการแนะนำ 4วิธีในการดูแลสุขภาพช่องปาก ที่หากทำตามได้ครบทุกวิธีรับรองเลยว่าสุขภาพช่องปากของคุณจะดีอย่างแน่นอน
1. การทำความสะอาดฟันจำเป็นต้องทำอย่างทั่วถึง
การแปรงฟันหลายท่านทำเป็นประจำจนเกิดการละเลย เราอยากจะเตือนท่านด้วยความหวังดีว่า สละเวลาเพียง 5 – 10 นาที เพื่อทำความสะอาดฟันให้ทั่วถึง ในทุกๆ วัน วันละ 2 ครั้ง ในตอนเช้า และก่อนนอน จะสามารถทำให้สุขภาพช่องปากของท่านดีไปตลอดชีวิต โดยจำเป็นจะต้องใส่ใจรายละเอียดในทุกซี่ ทำความสะอาดตามโคนฟัน ซอกฟัน ไรฟัน ให้ทั่วถึง ด้วยยาสีฟันที่ผสมฟลูออไรด์ เสร็จแล้วท่านควรใช้ไหมขัดฟันทำความสะอาดอีก 1 ครั้ง หลังจากแปรงฟันเสร็จ เพื่อช่วยขจัดเศษอาหาร หรือคราบที่ติดอยู่กับฟันออกจนหมดจด
2. ดูแลเรื่องการรับประทานอาหาร
การทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ โดยเน้นอาหารจำพวก โปรตีน อย่างไข่และนม ที่อุดมไปด้วยแคลเซียม จะช่วยให้ฟันแข็งแรง นอกจากนี้ควรทานผักและผลไม้ที่อุดมไปด้วยวิตามินซี เพื่อการเสริมสร้างเหงือกให้เหงือกแข็งแรง ไม่เป็นโรคอีกด้วย ท่านควรหลีกเลี่ยงอาหารที่เป็นแป้งและน้ำตาล โดยเฉพาะในเวลาก่อนนอน เพราะเชื้อจุลินทรีย์และแบคทีเรียจะทำการย่อยสารอาหารจำพวกแป้งและน้ำตาล แล้วทำให้เกิดฤทธิ์กัดกร่อนผิวฟัน ซึ่งนานวันเข้าจะทำให้เกิดอาการฟันผุขึ้นมาได้
3. หลีกเลี่ยงพฤติกรรมที่ก่อให้เกิดการสึกกร่อนของฟัน
ควรหลีกเลี่ยงพฤติกรรมต่างๆ ที่ก่อให้เกิดการสึกกร่อนของฟัน ไม่ว่าจะเป็น การกัด การสบฟัน กับของแข็ง หรือการกิน การเคี้ยวอาหารที่มีรสเปรี้ยว ซึ่งจะทำให้มีโอกาสฟันบิ่น หรือแตกหักของฟันได้ นอกจากนั้นแล้วการทำพฤติกรรมดังกล่าวยังอาจทำให้กล้ามเนื้อกราม หรือข้อต่อขากรรไกรทำงานหนัก ซึ่งอาจจะส่งผลเสียในระยะยาวต่อการเคี้ยวอาหาร รวมไปถึงการขยับปากเวลาพูดคุยอีกด้วย ดังนั้นควรลด ละ เลิก การรับประทานอาหารที่เหนียวหรือแข็งเป็นประจำติดต่อกันเพื่อช่วยป้องกันปัญหาต่างๆ ที่จะตามมาในอนาคตได้
4. ควรพบทันตแพทย์ทุกๆ 6 เดือน
ในข้อที่กล่าวมาทั้งหมด เป็นการดูแลฟันด้วยตัวเองด้วยวิธีเบื้องต้น และข้อสุดท้ายนี้จะเป็นการปรึกษาเพื่อรับคำแนะนำ หรือรับบริการทางทันตกรรมจากทันตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ โดยแนะนำให้ไปพบทันตแพทย์ทุกๆ 6 เดือน เพื่อทำการเช็กสุขภาพช่องปาก เพราะบางครั้งการดูแลช่องปากด้วยตัวเอง อาจทำได้ไม่ทั่วถึง มีจุดผิดพลาด แม้เพียงเล็กน้อยก็สามารถสะสมก่อให้เกิดโรคได้ ดังนั้นจะเป็นการดีที่สุดที่จะให้ทันตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญช่วยดูแล ตรวจเช็ก ให้คำปรึกษา เพื่อรักษาฟันของท่านให้ยาวนานที่สุด โดยอาจรับการทำทันตกรรมต่างๆ เพื่อช่วยให้ฟันสะอาด มีสุขภาพดี เช่น การขูดหินปูน การเคลือบฟลูออไรด์ หรือการทำทันตกรรมอื่นๆ ตามความผิดปกติในช่องปากของคุณ