โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี ติดตั้งเครื่องตรวจคัดกรอง เอชพีวี “อะลินิตี้ เอ็ม (Alinity m)” เพื่อคัดกรองมะเร็งปากมดลูกในผู้หญิงแห่งแรกในประเทศไทย ตั้งเป้ารองรับบริการตรวจมะเร็งปากมดลูกในกลุ่มเป้าหมาย 5 จังหวัด ได้แก่ อุบลราชธานี ศรีสะเกษ ยโสธร อำนาจเจริญ และมุกดาหาร โดยเครื่องดังกล่าวมีประสิทธิภาพรองรับได้ถึง 1,080 ตัวอย่างต่อวัน และทราบผลใน 2 ชั่วโมง โดยปัจจุบันมะเร็งปากมดลูกเป็นมะเร็งอันดับ 2 ที่ตรวจพบในผู้ป่วยหญิงในประเทศไทย ซึ่งแต่ละปีจะพบผู้ป่วยรายใหม่ประมาณ 8,000 คน จำนวนนี้มีอัตราการเสียชีวิตถึงร้อยละ 50 มีค่าใช้จ่ายการดูแลรักษาสูงถึง 350 ล้านบาทต่อปี ล่าสุดโรงพยาบาลได้เปิดให้บริการคัดกรองโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายในวันและเวลาราชการ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 0 4531 9200 นอกเวลาราชการ โทร. 09 4283 0707 หรือ 0 4531 9200 ต่อ 1706 หรือเฟซบุ๊ก โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ อุบลราชธานี
นพ.มนต์ชัย วิวัฒนาสิทธิพงศ์ ผู้อำนวยการ โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ กล่าวว่า ปัจจุบันโรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ได้มีการขยายศักยภาพของหน่วยบริการเพื่อเตรียมความพร้อมที่จะรองรับการตรวจไวรัสเอชพีวี (HPV) ที่เป็นต้นเหตุของมะเร็งปากมดลูก ด้วยการติดตั้งเครื่อง “อะลินิตี้ เอ็ม (Alinity m)” มีประสิทธิภาพสูงในการรองรับการตรวจมะเร็งปากมดลูก ถือเป็นความสำเร็จอีกขั้นในการยกระดับการให้บริการสุขภาพให้แก่เขตสุขภาพที่ 10 ซึ่งครอบคลุมพื้นที่ 5 จังหวัด ได้แก่ อุบลราชธานี ศรีสะเกษ ยโสธร อำนาจเจริญ และมุกดาหาร โดยเครื่องดังกล่าวสามารถตรวจไวรัสในกระแสเลือดแบบอัตโนมัติ โดยวิธีเอชพีวี ดีเอ็นเอ (HPV DNA) หรือการตรวจดีเอ็นเอของเชื้อเอชพีวี ซึ่งวิธีนี้มีความไวในการตรวจหาสาเหตุของเซลล์ปากมดลูกที่ผิดปกติ ทำให้สามารถตรวจพบผู้ป่วยในระยะแรกเริ่มได้ โดยสอดคล้องกับสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ที่มีนโยบายเปลี่ยนวิธีการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกเป็นวิธี HPV DNA แทน ซึ่งมีประสิทธิภาพในการคัดกรองสูง อย่างไรก็ตาม โรงพยาบาลตั้งเป้าหมายในการคัดกรองประชากรเพศหญิงในพื้นที่ภาคอีสานครอบคลุม 5 จังหวัดดังกล่าว โดยมีกลุ่มเป้าหมายรวม 174,768 คนต่อปี
ด้าน นพ.เจนฤทธิ์ วิตตะ รองผู้อำนวยการฝ่ายการแพทย์ โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับการติดตั้งเครื่อง “อะลินิตี้ เอ็ม (Alinity m)” ที่โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์นั้น จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก โดยสามารถรองรับตัวอย่างได้มากถึง 1,080 ตัวอย่าง ใน 24 ชั่วโมงแบบต่อเนื่อง และทราบผลใน 2 ชั่วโมง ซึ่งเร็วกว่าเดิม 3-4 เท่า จากวิธีการตรวจแบบเดิม คือ การตรวจผ่านการทำแล็บ โมเลกุลาร์ หรือ พีซีอาร์ (PCR) ด้วยการตรวจวิธีแปปสเมียร์ (Pap Smear) ที่ใช้เวลานานถึง 6-7 ชั่วโมง โดยแพทย์จะใช้เครื่องมือสอดผ่านทางช่องคลอด จากนั้นจะทำการป้ายเซลล์จากมดลูกส่งตรวจทางห้องปฏิบัติการเพื่อตรวจหาเซลล์ที่ผิดปกติหรือเซลล์ที่มีการเปลี่ยนแปลงซึ่งอาจทำให้เกิดมะเร็งได้
อย่างไรก็ตาม สปสช. ได้บรรจุการคัดกรองมะเร็งปากมดลูกเป็นสิทธิประโยชน์กองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บัตรทอง) โดยร่วมมือกับกระทรวงสาธารณสุขและหน่วยบริการทุกระดับ ผ่านการดำเนินโครงการคัดกรองมะเร็งปากมดลูกระดับชาติ สำหรับหญิงไทยอายุระหว่าง 30 - 60 ปี ซึ่งประชาชนในพื้นที่ 5 จังหวัดดังกล่าว สามารถเข้ารับการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกด้วยวิธีการตรวจ HPV DNA โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายในวันและเวลาราชการ หากในกรณีตรวจนอกเวลาราชการ รับบริการ ณ Sunprasit Drive Thru ถ.สุริยาตร์ ชำระค่าบริการเพียง 100 บาท
“การตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก เป็นมาตรการที่สำคัญในการลดจำนวนมะเร็งปากมดลูกผู้ป่วยหญิงไทย โดยมีเป้าหมายการค้นหาผู้ป่วยในระยะแรกเริ่ม นำไปสู่การรักษาได้ทันและผลสำเร็จสูงถึงร้อยละ 80 โดยจากสถิติพบว่ามะเร็งปากมดลูกพบมากเป็นอันดับ 2 ของมะเร็งในผู้หญิงไทย ซึ่งแต่ละปีจะมีผู้หญิงไทยป่วยเป็นมะเร็งปากมดลูกรายใหม่ประมาณ 8,000 คน โดยจำนวนนี้มีอัตราการเสียชีวิตถึงร้อยละ 50 รวมถึงค่าใช้จ่ายในการดูแลรักษาผู้ป่วยมะเร็งปากมดลูก สูงถึง 350 ล้านบาทต่อปี” นพ.เจนฤทธิ์ กล่าวทิ้งท้าย
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 0 4531 9200 นอกเวลาราชการ โทร. 09 4283 0707 หรือ 0 4531 9200 ต่อ 1706 หรือเฟซบุ๊ก โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ อุบลราชธานี